เพชรมีใบเซอร์ (Diamond Certification) คือเพชรที่ถูกผ่านการตรวจคุณภาพและออกใบรับรองโดยสถาบันทางด้านอัญมณี โดยในใบเซอร์ก็จะมีแสดงรายละเอียดต่างๆของเพชรเม็ดนั้นไว้ เช่น
เลขระบุบนเพชร(Number report)
รูปทรง(Shape) เช่น ทรงกลม , ทรงไข่ , ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส
สี(Color) เช่น D , E , F
ซึ่งเพชรที่มีใบเซอร์ก็จะเป็นการการันตีอีกอย่างหนึ่งว่าเพชรเม็ดนี้มีรายละเอียดเพชรตามที่ต้องการ และเนื่องจากมีสถาบันที่ออกเพชรใบเซอร์หลายที่ ทั้งในประเทศและนอกประเทศ ซึ่งมาตรฐานและราคาจะแตกต่างกันไป ดังนั้นถ้าจะเลือกซื้อเพชรใบเซอร์จึงควรเลือกสถาบันที่ได้มาตรฐานในการออกใบเซอร์ด้วย อย่างเช่น GIA และ HRD
โดยปัจจุบันทางร้านจะใช้เพชรที่มีใบเซอร์จากสถาบันที่มีคุณภาพอย่าง GIA และ HRD ในเพชรร่วงขนาด0.30กะรัต(30ตัง) ขึ้นไป
เพชรไม่มีใบเซอร์ (Diamond Non-certification) คือเพชรที่ไม่ได้ถูกผ่านการตรวจคุณภาพจากสถาบันทางด้านอัญมณี ในรายละเอียดของเพชรก็จะเป็นการการประเมิณโดยร้านค้าที่จำหน่าย ดังนั้นการจะเลือกซื้อเพชรที่ไม่มีใบเซอร์จึงต้องเลือกซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้ และมีนักอัญมณีศาสตร์ (Gemologist) ที่สามารถวิเคราะห์ประเมินได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะเพชรขนาดเล็ก(melee)ที่ไม่มีใบเซอร์ยิ่งต้องผ่านการคัดเลือกตรวจสอบโดยนักอัญมณีศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญ
แน่นอนว่าราคาของเพชรมีใบเซอร์ และไม่มีใบเซอร์ ย่อมต่างกัน ไหนจะเกี่ยวกับรายละเอียดของเพชรและค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบคุณภาพเพื่อออกใบเซอร์ออกมา เช่น ราคาเพชรไซส์1กะรัตในคุณภาพเดียวกัน ถ้าไม่มีใบเซอร์อยู่ที่ราคา250,000บาท แต่ถ้ามีใบเซอร์อาจอยู่ที่300,000บาท
พอเรารู้ถึงความต่างระหว่างเพชรใบเซอร์และเพชรไม่มีใบเซอร์แล้ว ก็อยู่ที่การตัดสินใจให้เหมาะกับการใช้งาน ความพอใจ และงบประมาณ โดยหวังว่าบทความนี้น่าจะช่วยให้คุณลูกค้าสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อเพชรได้ง่ายขึ้นนะคะ